อาจารย์ต้น ตั้งชื่อดีทุกศาสตร์หลักของการตั้งชื่อ

อาจารย์ต้น ผู้เชี่ยวชาญการตั้งชื่อ ( พลังนวพล ธัมวรวัฒน์ ) แอดไลน์ด้วยคิวอาร์โค้ต หรือ ไอดีไลน์ ajanton999 / ชื่อสวย นามสกุลภูมิฐาน,ร่ำรวย, ชื่อลูก, ชื่อบริษัท, ร้าน,ชื่อแบรนด์, ชื่อเว็บ ได้รับชื่อเร็วไม่เกิน 45 ช.ม. รับประกันคุณภาพด้วยชื่อเสียง 26 ปี * ดูรีวิวความพึงพอใจได้ที่เมนู "หน้าแรก"

หยุดเป็นมนุษย์ 100 ชื่อ ตัววิ่ง

ดีครบทุกศาสตร์หลักของการตั้งชื่อ ดีครบทุกศาสตร์ยอดฮิต หยุดการเป็นมนุษย์ 100 ชื่อได้ที่นี่

ประสบการณ์ ตัววิ่ง

ได้รับชื่อเร็วทันใจ ประสบการณ์ 26 ปี เปิดเว็บนี้ปีที่ 16 เชื่อถือได้ 100 %

อาจารย์แบ่งค่าครูทำบุญเพื่อการกุศลอย่างจริงจัง อยากเชื้อเชิญให้เลื่อนลงสุด



ชื่อ ตีแผ่ ศาสตร์ตั้งชื่อ ในอินเตอร์เน็ต

ตีแผ่ศาสตร์ตั้งชื่อ

ศาสตร์ตั้งชื่อที่มีมากซะจน "งง" อ่านแล้วจะหายงงไปได้เยอะเลย  

ได้แยกศาสตร์ไว้เป็นประเภท  ดังนี้  




          ประเภทที่ 1   เป็นศาสตร์ดั้งเดิม  เป็นศาสตร์ต้นกำเนินของการตั้งชื่อก็ว่าได้  นั่นคือ ทักษา, เลขศาสตร์  ซึ่งมีมาเป็นหลายร้อยปีแล้ว   และเก็บสถิติได้เป็นที่แน่นอนแล้ว  ทำให้สองศาสตร์นี้แม่นจำเป็นที่เชื่อถือศรัทธา  เรียกว่าการตั้งชื่อจะขาด 2 ศาสตร์นี้ไปไม่ได้เลย  ถือว่าเป็นแกนหลักของการตั้งชื่อ

          ประเภทที่  2   เป็นศาสตร์ที่เกิดภายหลังไม่กี่สิบปี  แต่มีความแม่นยำมากจนตะลึง  จึงเป็นที่นิยมแพร่หลาย  ได้แก่  ศาสตร์เลขกำลังดาวพระเคราะห์  หรือที่บางคนเรียก  พลังเงาบ้าง  พลังสะท้อนบ้าง  นั่นแหละครับ   (คลิกอ่านรายละเอียดของพลังเงา,พลังสะท้อน ได้)

          ประเภทที่  3   ศาสตร์ที่มีมานานแต่ไม่เป็นที่นิยม  ได้แก่  ตุ๊กตาไขนาม , อักษรหลาวเหล็ก 
  
อธิบาย   ศาสตร์ตุ๊กตาไขนาม  ที่ไม่เป็นที่นิยมเพราะค่อนข้างจะหยาบไปหน่อย  เอาแค่การออกเสียงเป็นเกณฑ์  เช่น  ชื่อ มณี  ออกเสียง  ม และ ณ  เอาแค่นี้   ส่วนการคำนวณก็เอาแค่ปีพ.ศ.เกิดเท่านั้น   
ไม่เอาวันที่  วันจันทร์ อังคาร พุธ......  ไม่เอาเดือนเกิด   ไม่เอาปีนักษัตร  ชวด ฉลู.......
เอาแค่ปีพ.ศ.เกิดมาทำให้เป็นปีค.ศ. แล้วหารด้วย 7  จึงไม่เป็นที่นิยม 
แต่...หากใครต้องการเพิ่มศาสตร์ตุ๊กตาไขนามนี้  บอกอาจารย์ได้นะครับ  

อธิบาย  ศาสตร์หลาวเหล็ก   อันนี้ก็เอาหลักของการดูทิศทางมาใช้  คือ  ในแต่ละวันทิศหลาวเหล็กก็จะอยู่ต่างกันไป  เช่น
  • วันอาทิตย์  หลาวเหล็กประจำอยู่ทิศ  ตะวันตก (ประจิม)
  • วันจันทร์    หลาวเหล็กประจำอยู่ทิศ  ตะวันออก  ( บูรพา )
  • วันอังคาร   หลาวเหล็กประจำอยู่ทิศ  เหนือ  ( อุดร )
  • วันพุธ   หลาวเหล็กประจำอยู่ทิศ  เหนือ  (อุดร )
  • วันพฤหัสบดี  หลาวเหล็กประจำอยู่ทิศ  ใต้  ( ทักษิณ )
  • วันศุกร์   หลาวเหล็กประจำอยู่ทิศ  ตะวันตก  ( ประจิม )
  • วันเสาร์  หลาวเหล็กประจำอยู่ทิศ  ตะวันออก  ( บูรพา )

แล้วไหนล่ะอักษรหลาวเหล็กไม่มี   ก็หลาวเหล็กเป็นเรื่องของทิศเขาไม่ใช่การดูอักษรไงครับ   ทีนี้อยู่มาก็มีใครไม่รู้เอาทิศหลาวเหล็กผสานกับทักษาเพื่อให้ได้อักษร    คือในทักษาจะมีอักษรและมีทิศประจำอยู่แล้ว  เขาก็เอาหลาวเหล็กมาผสานเข้าไป  ทิศที่ตรงกับทิศในทักษา  และตรงกับอักษรตัวใดบ้างก็หมายว่าอักษรนั้น ๆ เป็นอักษรหลาวเหล็ก


อธิบาย  ทิศผีหลวง   ก็เหมือนกันกับทิศหลาวเหล็กทุกประการ  เขาใช้หลักการเดียวกัน  คือทิศไหนตรงผีหลวง  ก็ทาบกับทักษาอักษรในช่องนั้นก็กลายเป็นอักษรผีหลวงไป  ซึ่งจะว่าไปมันก็ไม่น่าเกี่ยวกันเรื่องของทิศกับอักษร   เหมือนว่านานวันไปศาสตร์ก็ชักจะเพี้ยนไป  ไม่คงของเดิมไว้
  • วันอาทิตย์ ผีหลวงเป็นม้าขาว  อยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  ( พายัพ )
  • วันจันทร์  ผีหลวงเป็นโค  อยู่ทิศตะวันออก  ( บูรพา )
  • วันอังคาร  ผีหลวงเป็นราชสีห์  อยูทิศตะวันออกเฉียงเหนือ  ( อิสาน )
  • วันพุธ  ผีหลวงเป็นยักษ์  อยู่ทิศเหนือ  ( อุดร )
  • วันพฤหัสบดี  ผีหลวงเป็นกระบือ (ควาย)    อยู่ทิศใต้  ( ทักษิณ )
  • วันศุกร์  ผีหลวงเป็นสุกร (หมู) อยู่ทิศตะวันตก  ( ประจิม )
  • วันเสาร์  ผีหลวงเป็นข้างสาร  อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้  ( อาคเนย์ )


ทิศเทวดา   ก็หลักการเดียวกันกับหลาวเหล็ก , กับทิศผีหลวง 
คือ  ทิศไหนเป็นทิศผีหลวง  ทิศตรงข้ามก็เป็นทิศเทวดา  ง่าย ๆ แค่นี้ครับ
  • วันอาทิตย์   เทวดาประจำ  ทิศตะวันออกเฉียงใต้  ( อาคเนย์ )
  • วันจันทร์   เทวดาประจำ  ทิศตะวันตก  ( ประจิม )
  • วันอังคาร   เทวดาประจำ  ทิศตะวันตกเฉียงใต้  ( หรดี )
  • วันพุธ   เทวดาประจำ  ทิศใต้  (ทักษิณ )
  • วันพฤหัสบดี  เทวดาประจำ  ทิศเหนือ  ( อุดร )
  • วันศุกร์  เทวดาประจำ  ทิศตะวันออก  ( บูรพา )
  • วันเสาร์  เทวดาประจำ  ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  ( พายัพ )

ส่วนอักษรเทพเจ้า  ก็มาจากทิศเทวดาคือมีบางคนต้องการเรียกให้ดูยิ่งใหญ่ก็เรียกทิศเทวดาเป็นทิศเทพเจ้า   และเมื่อทาบลงในทักษาแล้วอักษรใดที่ตรงกับทิศเทวดา (ทิศเทพเจ้า)  ก็เรียกว่า อักษรเทพเจ้า  นั่นเอง


          ประเภทที่  4   เป็นศาสตร์ใครคิดได้คิดเอา  เช่น  รหัสชีวิต , อักษรจักรพรรดิ์  และ ฯลฯ

อธิบายที่มาของ   รหัสชีวิต  ก็เอามาจากค่าเลขศาสตร์ของชื่อได้เลขอะไรก็เอามาบวกกัน  เช่น  ชื่อ วรินทร์  ค่าเลขศาสตร์ได้  33  ก็เอา 3+3 = 6  เลข 6 เขาว่าเป็นรหัสชีวิต   และรหัสชีวิตเอาแค่เลข 1 - 8  หากบวกแล้วได้ 9  ก็ไม่เอา  ให้ถือว่าเลข 9 คือเลข 8  ( งงกับชีวิตเลย ) 

อธิบายที่มาของ  อักษรจักรพรรดิ์   อันนี้รอฟันธงจากเจ้าของเว็บอย่างเดียวเลย  คุณไม่สามารถจะทวนเช็คได้เลยว่าเขาบอกมานั้นมันใช่หรือไม่ใช่  จริงหรือไม่จริง  ถ้าเชื่อก็คือ เขาบอกยังไงก็ต้องอย่างนั้น   เหมือนคนตาบอดซึ่งแล้วแต่เขาจะพาไป   ก็แล้วแต่คน..ชอบหรือไม่ชอบแบบนี้ก็ว่ากันไป








บทความที่ได้รับความนิยมใน 7 วันที่ผ่านมา