ข้อสงสัยยอดฮิต
ข้อ 1 : การเช็คชื่อ, นามสกุล กับโปรแกรมอัตโนมัติ ทำไมบางชื่อผลลัพธ์ตรงกัน บางชื่อไม่ตรง ( ซึ่งเกิดขึ้นกับการเช็คค่าพลังเงา, พลังสะท้อน, กำลังดาวพระเคราะห์ และค่าอายตนะ6 )
ข้อ 2 : ต่อเนื่องจากข้อแรก " บางชื่อ " ได้ผลลัพธ์ตรงกัน แต่ความหมายของเลขไม่เหมือนกัน ?
เกิดจากการใส่ข้อมูลในโปรแกรมคลาดเคลื่อน เป็นดังนี้ อักษรในภาษาบาลี ที่แบ่งอยู่ในช่องทักษาทั้ง 8 ช่อง ที่เรารู้จักกันดีนั่นแหละ หากพยัญชนะตัวใด หรือสระตัวใดไม่ปรากฏอยู่ในทักษาแล้ว ก็เท่ากับไม่มีเลขกำลังดาวที่นำมาคำนวณได้เลย จึงแนะนำให้เรียนรู้ไว้นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังดีจะได้ไม่พลาด
สระในภาษาบาลี มี 8 รูป 8 หน่วยเสียง ที่อยู่ในทักษาช่องบริวาร ได้แก่ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ แค่นี้เท่านั้นที่จะนำมาคำนวณหาค่ากำลังดาวพระเคราะห์ , ค่าพลังเงา ( พลังสะท้อน ) และค่าอายตนะ 6 ถ้านอกเหนือจากนี้นำมาคำนวณไม่ได้
สระที่นำมาคำนวณไม่ได้ คือ สระอำ, สระไอไม้มลาย , สระใอไม้ม้วน , สระเอา เพราะเหล่านี้คือ สระเกิน
สระเกินนี้ แม้นักภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน ก็ไม่ถือว่าเป็นเสียงสระ เนื่องจากมีเสียงพยัญชนะผสมอยู่ ดังนี้ สระอำ มีเสียง ม (อัม) / สระไอ - ใอ มีเสียง ย (อัย) / สระเอา มีเสียง ว
นอกจากนี้ ในทักษาก็ไม่มี ไม้ไต่คู้ ( ๘ ) , การันต์ , ไม้หันอากาศ , วรรณยุกต์ เอก โท ตรี จัตวา หากใครเอาสิ่งเหล่านี้ร่วมคำนวณด้วยผลลัพธ์ก็คลาดเคลื่อน
" สระ " ที่ไม่มีในทักษา แล้วใส่ในโปรแกรมคำนวณเลขของชื่อ ผิดด้วยหรือ ?
" สระ " ที่ไม่มีในทักษา แล้วใส่ในโปรแกรมคำนวณเลขของชื่อ ผิดด้วยหรือ ?
ตอบ เมื่อ " สระ " ตัวใดไม่มีในทักษา / วรรณยุกต์ เอก โท ตรี จัตวา ไม่มีในทักษา / ไม้หันอากาศ , การันต์ ไม้ใต่คู้ ไม่มีในทักษา ก็หมายความว่าจะไม่มีค่าเลขกำลังดาว เพราะทักษาแต่ละช่องจะมีดาวประจำอยู่และดาวแต่ละดวงก็มีเลขกำลังของเขา เมื่อไม่มีเลขกำลังดาว แล้วจะเอาอะไรมาคำนวณ คุณจะอนุโลมเอาเองไม่ได้ นอกศาสตร์นอกครูไม่ได้เพราะจะทำให้ศาสตร์คลาดเคลื่อนผิดเพี้ยนไป ถ้าหากมีความเห็นต่างจากโบราณาจารย์ก็ควรตั้งศาสตร์ของตัวเองใหม่ทั้งหมด อย่าเอาทักษาเป็นบาทฐาน
หากทุกเว็บทุกโปรแกรมใช้หลักการเดียวกัน ถือเอาตำราโบราณเป็นหลักเกณฑ์แล้วย่อมตรงกันหมด
ตอบคำถาม ข้อ 2 ดังนี้
เลขเหมือนกันแต่ความหมายของเลขไม่เหมือนกัน
- เนื่องจากแต่ละตัวเลขนั้นมีความหมายกว้างขวางและไม่มีเลขไหนเลยที่มีแต่ดีอย่างเดียว ล้วนแต่มีทั้งดีทั้งร้ายผสมผสานอยู่ เพียงแต่ดีมากกว่า ดีน้อยกว่า - ร้ายมากกว่า ร้ายน้อยกว่า ทีนี้บางคนก็จับเอาส่วนดีมาเป็นเกณฑ์ บางคนก็จับเอาส่วนเสียมาเป็นเกณฑ์ แล้วเติมความคิดเห็นส่วนตัวเข้าไปก็ทำให้ความหมายของเลข ๆ หนึ่งมีความแตกต่างกันออกไป
- อีกประการ ในเลขหนึ่งตัวก็มีความหมายเฉพาะตัวอยู่ เมื่อเลขมาอยู่ด้วยกันสองตัวความหมายก็เพิ่มเติมขยายกว้างออกไปอีก บางเว็บก็รู้ คือถ้าได้ร่ำเรียนมาก็ต้องรู้แน่นอน แต่...บางเว็บไม่รู้ สรุปคือ เกิดจากการตีความของแต่ละเว็บนั่นเอง
ตารางแบบง่าย " ทักษา "
อักษรบาลี 33 ตัว ที่แบ่งเป็น 5 วรรค ๆ ละ 5 ตัวอักษร ซึ่งแบ่งออกตามฐานที่เกิดเสียง และเศษวรรค ( เศษวรรคคือพยัญชนะที่มีฐานเกิดเสียงไม่เข้าพวก )
อักษรบาลี 33 ตัว ที่แบ่งเป็น 5 วรรค ๆ ละ 5 ตัวอักษร ซึ่งแบ่งออกตามฐานที่เกิดเสียง และเศษวรรค ( เศษวรรคคือพยัญชนะที่มีฐานเกิดเสียงไม่เข้าพวก )
บริวาร
|
อายุ
|
เดช
|
ศรี
|
มูละ
|
อุตสาหะ
|
มนตรี
|
กาลกิณี
|
อะ, อา
อิ, อี
อุ, อู
เอ, โอ
|
ก ข
ค ฆ ง |
จ ฉ
ช ฌ ญ |
ฏ ฐ
ฑ ฒ ณ |
ต ถ
ท ธ น |
ป ผ
พ ภ ม |
ย ร
ล ว
เศษวรรค |
ส ห
ฬ อํ
เศษวรรค |
สระอำ , สระไอ , สระใอ , สระเอา เหล่านี้คือ สระเกิน ไม่มีอยู่ในทักษา
แม้นักภาษาศาสตร์ในปัจจุบันก็ไม่ถือว่าเป็นเสียงสระ
และในทักษาจะไม่มี ไม้ไต่คู้ , ไม้หันอากาศ , วรรณยุกต์ เอก , โท , ตรี , จัตวา
เผยแพร่ความรู้ ความเข้จ เพื่อคงศาสตร์ที่ถูกต้องไว้ ไม่ให้แชเชือน