นามสกุล
สมัยใหม่ยุคศตวรรษที่ 21 (ปัจจุบัน) ยุคนี้สมัยนี้ ทำไมจึงมีการเปลี่ยนนามสกุลกันมากเป็นประวัติการณ์ กรณีชื่อไม่เข้ากับนามสกุลอันนี้น่าจะเป็นเหตุผลที่ฮิตที่สุด เพราะหากชื่อ + นามสกุลแล้วไม่ดี ก็หมายถึง ในระยะยาวชีวิตจะมีปัญหาแน่
เหตุผลอื่น ๆ ก็คือ ต้องการความไพเราะ,ทันสมัย,ดูดีมีชาติตระกูล, ความหมายร่ำรวยรุ่งเรือง, สุขภาพแข็งแรง, โชคดี, มีความรักอบอุ่น ฯลฯ
บางคนเมื่อจะเปลี่ยนนามสกุล ก็เลยเปลี่ยนชื่อไปด้วยเสียเลย ด้วยหลายเหตุผล เช่น ชื่อเดิมไม่ไพเราะ ชื่อเชยๆ ชื่อมีความหมายตลก ๆ ชื่อไม่เข้ากับศาสตร์ที่เป็นมงคล ชื่อรวมกับนามสกุลแล้วเสียไม่เป็นมงคล และ ไหน ๆ ต้องไปเขตไปอำเภอแล้วก็ทำเสียทีเดียวจบเป็นต้น
บางคนเมื่อจะเปลี่ยนนามสกุล ก็เลยเปลี่ยนชื่อไปด้วยเสียเลย ด้วยหลายเหตุผล เช่น ชื่อเดิมไม่ไพเราะ ชื่อเชยๆ ชื่อมีความหมายตลก ๆ ชื่อไม่เข้ากับศาสตร์ที่เป็นมงคล ชื่อรวมกับนามสกุลแล้วเสียไม่เป็นมงคล และ ไหน ๆ ต้องไปเขตไปอำเภอแล้วก็ทำเสียทีเดียวจบเป็นต้น
ในหลาย ๆ วัฒนธรรม จะมีนามสกุลต่อท้ายชื่อ บางวัฒนธรรมจะมีนามสกุลนำหน้าชื่อ และบางวัฒนะธรรมจะเรียกกันเป็นทางการด้วยนามสกุล
- วัฒนธรรมที่มีนามสกุลต่อท้ายชื่อ ได้แก้ ตะวันออกกลาง ทวีปแอฟริกา ประเทศตะวันตก และไทย
- วัฒนธรรมที่มีนามสกุลนำหน้าชื่อ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม กัมพูชา โปแลนด์ และฮังการี
- วัฒนธรรมที่ที่มีนามสกุลต่อท้ายชื่อแต่นิยมเรียกนามสกุลอย่างเช่น ตะวันตก พูดง่าย ๆ ก็ฝรั่งนั่นแหละ
- ประเทศตะวันตก ่จีน ญี่ปุ่น นิยมเรียกนามสกุลเป็นการให้เกียรติกัน
- ที่แปลกออกไปก็มีที่ ประเทศเวเนซูเอล่า จะใช้ทั้งนามสกุลของพ่อและของแม่ด้วย ใช้สองนามสกุลเลย
ในประเทศไทย ที่มาของนามสกุล
แต่สมัยโบราณกาลนั้นไทยไม่ได้มีนามสกุลใช้ หากเรียกชื่อกันแล้วไม่รู้ว่าใครเป็นใครก็จะถามลูกใคร หรือคนบ้านไหน แค่นี้ก็รู้แล้ว เพราะสมัยก่อนคนไม่ได้แออัด ่จะอยู่เป็นกลุ่ม ๆ และมีชื่อกลุ่ม ชื่อหมู่บ้าน เรียกสั้น ๆ ว่าบ้าน ( สมัยนี้คำว่า บ้าน หมายถึงบ้านหลังเดียวบ้านใครบ้านมัน )
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2455 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าให้มีการใช้นามสกุลและตราพระราชบัญญัตินามสกุลมีผลบังคับใช้เมื่อ ปี 2456 และได้พระราชทานนามสกุลให้แก่หลายครอบครัว นามสกุลแรกของไทยคือ สุขุม
การตั้งนามสกุลความนิยม
- นิยมตั้งนามสกุลตามชื่อหัวหน้าครอบครัว,
- ตั้งนามสกุลตามถิ่นที่อยู่อาศัย,
- ตั้งนามสกุลตามอาชีพที่ทำ,
- ตั้งนามสกุลตามธรรมชาติที่ตนชอบ
- ตั้งนามสกุลตามชื่อบรรพบุรุษที่ทำคุณความดีเอาไว้
- ตั้งตามยศถาบรรดาศักดิ์ ตามราชทินนาม เช่น หลวงพิบูลสงคราม เป็นนามสกุล พิบูลสงคราม
ในการจดนามสกุลหรือเปลี่ยนนามสกุล
ตามพระราชบัญญัติปี พ.ศ. 2505 กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งนามสกุลไว้ว่า
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งให้คล้ายกับพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ และพระนามของพระราชินี
- ต้องไม่มุ่งให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแต่ราชทินนามนั้นเป็นของตนหรือของบุพการีหรือผู้สืบสันดาน
- ต้องไม่ซ้ำกับนามสกุลพระราชทาน หรือนามสกุลที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว
- ไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
- นามสกุล ต้องมีไม่เกิน 10 พยัญชนะ เว้นแต่ เป็นราชทินนาม
- ผู้ที่ไม่ได้รับพระราชทานนามสกุลห้ามใช้คำว่า ณ นำหน้าชื่อสกุล
- ห้ามเอานามพระมหานครและศัพท์ที่ใช้เป็นพระปรมาภิไธยมาใช้เป็นชือสกุล
--------------------------------------------