ภัยพิบัติเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นสิ่งที่ไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ หรือถ้ารู้ได้ก็จะรู้ล่วงหน้าไม่มาก ณ เวลานั้นก็ต้องใช้ไหวพริบเฉพาะตัวล้วน ๆ ว่าจะทำอย่างไร
ภัยธรรมชาติหลัก ๆ ก็ได้แก่ แผ่นดินไหว , พายุ , น้ำหลาก , ไฟป่า , ดินถล่ม คนที่จะเอาตัวตัวรอดได้ดีก็คือคนที่สนใจ ได้อ่านเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นที่เขาประสบมา ได้อ่านคำแนะนำต่าง ๆ จนจำได้บ้าง เมื่อประสบเหตุกับตัวก็จะเอาตัวรอดได้ดี
หลักจากเหตุการณ์สงบแล้วเกิดความเสียหายเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง คนที่เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก็จะไม่เดือนร้อนมากนัก ต่างจากคนที่ไม่ได้เตรียมอะไรเลยก็จะเดือดร้อนหนัก ต้องรอจนกว่าความช่วยเหลือจากคนอื่นจะเข้ามาถึง แต่หากได้เตรียมตัวไว้เตรียมการไว้เตรียมสิงของไว้ระหว่างรอการช่วยเหลือก็ยังไม่ลำบากมาก ดังนั้นเราจะมาพูดถึงเรื่องสิ่งของที่เราต้องเตรียมไว้เพื่อความไม่ประมาท แม้ผู้เขียนก็ต้องเตรียมเหมือนกัน แม้จะดูว่ามันไกลตัวมากก็ตาม ดังนั้นคุณก็เช่นกันถึงแม้จะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวก็ควรเตรียมไว้บ้าง มาถึงเรื่องนี้อาจารย์ต้นก็ขอเว้นว่างเรื่องตั้งชื่อ เปลี่ยนนามสกุล พักไว้ก่อน
แผ่นดินไหว
เตรียมตัวเตรียมการก่อนเกิดเหตุหากท่านอยู่ในเขตแผ่นดินไหวบ่อย ต้องเตรียมข้าวของภายในบ้านให้มั่นคงแข็งแรง เช่น ตู้ให้ยึดติดกับผนังให้แน่นกันไม่ให้ล้มทับคน , อย่าวางของหนัก ๆ ซ้อนกันสูง ๆ มันจะโค่นล้มมาทับได้
ขณะเกิดแผ่นดินไหว
- หากอยู่บนอาคารสูง ให้อยู่ใต้โต๊ะที่แข็งแรงหน่อย อย่าลงบันไดเพราะมันอาจจะหักพังลงมา , อย่าลงลิฟท์เพราะอาจติดค้างหรือตึกทรุดทำให้ลิฟท์ค้าง เมื่อสงบแล้วค่อยรีบลงมา แล้วรีบออกนอกอาคารมาอยู่กลางแจ้ง อยู่ห่างจากอาคารสูงด้วยเพราะถ้าตึกสูงโค่นล้มจะได้ปลอดภัย , อย่าอยู่ใกล้เสาไฟฟ้า , หรือกำแพง สรุปก็คือ อยู่ที่โล่ง ๆ แบบสนามฟุตบอล
- ถ้าขับรถอยู่ให้หยุดรถแล้วอยู่ภายในรถก่อน
หลังเกิดแผ่นดินไหว
- ให้ยกสะพานไฟลง (สับคัตเอ๊าท์ลง) เป็นอันดับแรก เพื่อป้องกันไฟช็อต
- ถ้ามีคนเจ็บก็นำส่งแพทย์
แผ่นดินถล่ม
เป็นเรื่องที่คาดการณ์ยากแต่ก็ยังมีวิธีสังเกต คือ ดูน้ำในลำห้วยที่ขุ่นมากขึ้น มีตะกอนไหลหลากมา , หากมีฝนตกต่อเนื่องหลายวันจะทำให้ดินชุ่มน้ำแล้วหลุดทลายลงมาได้ หากมีบ้านอยู่เชิงเขาต้องระวัง , หากฝนตกหลายวันแล้วมีเสียงเหมือนต้นไม้ล้ม หรือเสียงน้ำเสียงแปลก ๆ ให้รีบหนีก่อน และบอกต่อ ๆกันไป ให้ขึ้นอยู่ที่สูง , ถ้าพลัดตกน้ำให้หาต้นไม้เกาะแล้วปีนขึ้นต้นไม้ใหญ่
วิธีป้องกัน
อย่าปลูกบ้านขวางทางน้ำหรือใกล้ลำห้วยมากนัก
ต้นไม้จะเป็นตัวชะลอแรงน้ำได้ ซับน้ำไว้ได้ ต้องช่วยกันปลูกต้นไม้ที่มีรากแก้วหยั่งลึก
ถ้าอยู่ในแถบเสี่ยงดินถล่ม ต้องจัดเวรยามดูความผิดปกติแล้วเตือนภัย ในช่วงฤดูฝน
ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศเสมอ
พายุ
ประเมินสิ่งแวดล้อมของบ้านและสถานที่ใกล้เคียง
- บ้าน แน่นหนาแข็งแรงพอมั้ย ถ้าเกิดพายุจะอยู่ตรงจุดไหนที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด
- สัตว์เลี้ยง จะให้อยู่ที่ไหน จะดูแลยังไงได้บ้าง
- หากคิดว่าบ้านไม่แข็งแรงพอ ให้มองสถานที่ใกล้เคียงว่ามีที่ไหนบ้าง เช่น โรงเรียน , สถานเลี้ยงเด็ก , โรงพยาบาล เล็งไว้หากเห็นว่าพายุจะมีแรงจะได้ไปอยู่ในสถานที่นั้น
- อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ยังชีพไว้ด้วย เดี๋ยวจะบอกว่ามีอะไรบ้าง
- อย่าลืมหาทางหนีทีไล่ให้แก่ คนชรา, คนป่วยหนัก, คนพิการ ว่าถ้าเกิดเหตุจะช่วยอย่างไร ถ้าในบ้านเราไม่มี แต่เพื่อนบ้านมีก็ช่วยเตือนเพื่อนบ้านไว้บ้าง
พายุกำลังเกิดขึ้น ควรทำอย่างไร
- สับคัตเอ้าท์ไฟฟ้าลง ดับเตาแก๊ส ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่าง ป้องกันไฟฟ้าช็อต
- ให้เข้าอยู่ในอาคารและเลือกที่จะอยู่ชั้นล่างชั้นที่ 1 จะปลอดภัยกว่าชั้นสูง ๆ อย่าอยู่ที่โล่งอาจเกิดฟ้าผ่า
- ให้อยู่ห่างสิ่งเหล่านี้ ถ้ากำลังขับขี่รถ ให้จอดและดูให้ห่างจากต้นไม้,เสาไฟฟ้า,ป้ายโฆษณาใหญ่ ๆ ,เสาไฟฟ้าแรงสูง,สะพานลอย คอยฟังข่าวสารจากทางการ อย่าเชื่อข่าวที่มาแบบปากต่อปาก
พายุสงบแล้ว ต้องทำอย่างไร
- ถ้ามีคนเจ็บให้ช่วยกันส่งโรงพยาบาล หากมีเหตุฉุกเฉินให้นึกถึง เบอร์ 191
- ถ้าอาคารเสียหาย อย่าเพิ่งเข้าไปภายในจนกว่าทางการจะตรวจสอบและประกาศให้เข้าได้
- ข้อนี้สำคัญมาก ถ้าได้กลิ่นแก๊ส อย่าจุดไฟแช็ค,อย่าจุดเทียน ให้เปิดหน้าต่างประตูระบายอากาศแล้วออกนอกอาคารบ้านเรือนไปก่อน ระบายแก๊สหมดกลิ่นแล้วค่อยเข้ามา
- ถ้าไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ไม่รู้ว่าเมื่อไรไฟฟ้าจะใช้ได้ เพื่อเก็บความเย็นในตู้เย็นให้นานที่สุดอาหารจะได้ไม่เสีย วิธีก็คืออย่าเปิดตู้เย็นบ่อย ความเย็นก็จะอยู่ทน 2 - 3 วัน
สิ่งที่ต้องเตรียม เพื่อรับมือกับภัยพิบัติ
น้ำดื่ม เก็บน้ำดิ่มไว้ในถังหรือขวดพลาสติกให้เพียงพอต่อทุกคนในครอบครัว โดยคำนวณอย่างน้อย 4 ลิตรต่อคน คือสำหรับดื่มด้วยใช้ล้างหน้าล้างตาด้วย มีกี่คนก็คูณจำนวน 4 ลิตร
อาหาร ควรเตรียม
- อาหารกระป๋อง อาหารแห้ง แบบที่เปิดปุ๊บทานได้เลย ประเภทเนื้อสัตว์, ผัก, ผลไม้อย่าลืมอุปกรณ์เปิดกระป๋องด้วย
- แอลกอฮอลล์สำหรับอุ่นอาหารเตรียมไว้บ้าง เผื่อจะอุ่นอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ
- เตรียมขนมกรุบกรอบที่ให้พลังงานสูงแก้หิว ขนมที่มีส่วนผสมช็อคโกแล็ตหรือน้ำตาลหวาน ๆ คุ๊กกี้ , บะหมี่ซอง ที่ฉีกซองใส่น้ำร้อนทานได้เลย , ธัญพืชอบที่ทานได้เลย
- ใส่เป้ไว้หยิบฉวยได้ง่าย
- ต้องดูทุก 10-12 เดือนเผื่ออาหารหมดอายุ และเปลี่ยนปีละครั้งเพื่อให้ใหม่
เตรียมชุดปฐมพยาบาล
- อุปกรณ์ทำแผลสด เช่น พลาสเตอร์ ผ้ากีอต แอลกอฮอลล์ ยาเหลือง ยาแดง ครีมเพนนิซเซอรีนหลอด ผ้าพันแผลม้วนใหญ่
- กรรไกร กระดาษทำความสะอาดแบบเปียกที่เป็นห่อใหญ่ ๆ (ที่เรียกติดปากว่าผ้าเย็น)
- ถุงมือยาง, เข็มกลัด, ยาแก้ปวด, ยาแก้ท้องเสีย, ยาลดกรด, ยาระบาย
ทั้งหมดนี้ให้เตรียมไว้ 2 ชุด ไว้ในรถและที่บ้านอย่างละชุด
อุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นไม่แพ้กัน
- ไฟฉายที่ไม่ใส่และถ่านไฟฉายเตรียมคู่ไว้ (อย่าใส่ไว้ในกระบอกไฟฉายไฟจะหมดและถ้านานมากถ่านจะบวม) เตรียมถ่านสำรองด้วย
- วิทยุใช้ถ่านเพื่อคอยฟังข่าวจากทางการ (กรณีไฟฟ้าดับ) และเตรียมถ่านสำรองด้วย
- เต้นท์นอน เครื่องนอน แบบชุดเดินป่าจะมีอุปกรณ์ยังชีพครบ
- ผ้าพลาสติกรองนอน , ถุงนอนให้ความอบอุ่น , นกหวีด , กระดาษปากกา
- ร่ม , เสื้อกันฝน
- รองเท้าบูทลุยน้ำ
อุปกรณ์รักษาความสะอาด
- กระดาษชำระ , ผ้าอนามัย
- สบู่ ยาสีฟัน แชมพู แปรงสีฟัน หวี ยาดับกลิ่นตัว
- ส้วมพกพา , ถุงพลาสติกทิ้งสิ่งปฏิกูล , เชือกมัดปากหรือยางรัดปากถุง
- ถ้าที่บ้านมีเด็กอ่อน อย่าลืมสำรอง นมผง , ผ้าอ้อม , ผ้าเช็ดตัว ยารักษาโรค สิ่งของสำคัญของเด็ก
- ถ้าเด็ก 3 - 6 ปี ให้เตรียมสีเทียนไว้ให้ ให้เตรียมหนังสือการ์ตูน เตรียมให้เหมาะกับวัยของเด็กในบ้าน เพื่อผ่อนคลายความเครียดของเด็กเมื่อไปโรงเรียนไม่ได้ และห่างเพื่อน
- ถ้าที่บ้านมีคนชรา อย่าลืมยารักษาโรคประจำตัว
- ถ้ามีคนป่วย อย่าลืมยาประจำตัวเช่น ยาเบาหวาน อินซูลีน เข็มสำรอง ยารักษาความดันโลหิตสูง ยาโรคหัวใจ
เอกสารสำคัญ
- หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ ๆ
- สมุดบัญชีธนาคาร บัญชีทรัพย์สินมีค่า
- หนังสือเดินทาง
- ประวัติการรักษาพยาบาล
- เลขบัตรเครดิต
- พินัยกรรม , กรมธรรม์ประกันภัย
- สัญญา โฉลด ใบหุ้น ตราสารหนี้
- ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน สูติบัตร ทะเบียนสมรส ให้เก็บไว้ในกระเป๋ากันน้ำได้
หมายเหตุ :
- รายการสิ่งของให้ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
- สิ่งของที่เตรียมไว้ เก็บไว้ให้ทุกคนหยิบฉวยได้
- ตรวจอย่าให้ของกินและยา หมดอายุ
- อาจจะเพิ่มรายการสิ่งของจำเป็น เช่น อยู่ใกล้เขา ใกล้ป่า เพิ่มเข็มทิศ พลุสัญญาณ ด้วย
ความเห็นเพิ่มเติม จากเหตุการณ์ที่เนปาลจะเห็นว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บก็มี คนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บก็มี ได้รับความเสียหายมากน้อยไม่เท่ากัน ถ้าจะมองเป็นเรื่องดวงดีดวงซวยก็ได้ มองว่ามีเคราะห์กับไม่มีก็ได้ จะมองว่าเป็นเรื่องบุญกุศลที่รอดมาได้ก็ว่าได้ ความคิดในแง่มุมนี้มีมาก ดังนั้นขอให้หมั่นทำบุญให้ทานรักษาศีล เจริญภาวนา ช่วยเหลือคนยากจน แบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทำความดีไว้เสมอ ๆ สักวันผลบุญจะค้ำจุนเอง ทำไปอย่าตั้งตารอว่าเมื่อไรผลบุญจะบังเกิด ที่จริงบุญส่งผลให้ตลอดอยู่แล้วการที่เราอยู่ดีไม่มีอุบัติเหตุ ไม่มีโรคร้ายแรง ก็บุญอย่างหนึ่งนะ เรื่องการตั้งชื่อ นามสกุล ตั้งชื่อร้าน ชื่อบริษัท ชื่อลูก ก็ยังมองข้ามไม่ได้เพราะถือเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งเหมือนกัน
-------------------------------------------------------